บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยล่าสุด กรณี ทนายพัช ทนายของ แอมไซยาไนด์ จะฟ้องตำรวจ

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ทนายของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอมไซยาไนด์ ที่มีข่าวว่าเตรียมที่จะฟ้องตำรวจในความผิดม.157 และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยบอกว่า เป็นสิทธิ์ของทุกคนหากจะฟ้องกลับ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร และออกหมายเรียกไปตามพยานหลักฐานต่างๆตามที่ปรากฎ

ในส่วนเมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่อวดเก่ง จองหอง ร้อนวิชา พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ก็บอกว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร ณ วันนี้ก็ทำตามกฎหมาย และได้ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในวันอังคารนี้ ถ้าหากครบกำหนดหมายเรียกก็จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อศาลอาญา เพื่อ ขออำนาจศาลออกหมายจับ พร้อมยืนยันตนเองและพนักงานสอบสวนทั้งชุดทำงานอย่างเป็นธรรมและไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐาน ซึ่งคดีนี้ ตำรวจสำนวนสรุปไปได้ถึง 90% แล้ว เหลือเพียง เส้นทางการเงินอีก 7-8 บัญชี จาก 180 บัญชีที่ได้มีการตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ทราบถึงที่มาของสารไซยาไนด์ และในวันศุกร์นี่จะขึ้นรูปคดีเตรียมสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการสั่งฟ้อง และตอนนี้มีการวางตัว บุคคลที่จะขึ้นเบิกความต่อศาลไว้แล้ว พร้อมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีการรับสารภาพ เพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน

• Black Panther: Wakanda Forever Review Universe

• การสอบถามเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ: ที่ปรึกษารู้สึก ‘ขวัญเสีย’ จากความกังวลเรื่องงาน

ขณะเดียวกัน เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากทนายของแอมไซยาไนด์ ผู้ถูกออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา แล้วทางตำรวจจะให้ประกันตัวหรือไม่

ซึ่งทาง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้บอกว่า หากผู้ถูกออกหมายเรียกปรากฏตัวก็จะต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา ในส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่ามีความพยายามที่จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ส่วนจะขอหมายขัง ตามป.วิอาญา 134 หรือไม่นั้น ก็มีหลักเกณฑ์อยู่แล้วตามกรอบของกฏหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอีกครั้ง

นอกจากนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า ได้เตรียมทีมทนายความไว้คอยช่วยเหลือ นายรพี ชำนาญเรือ ตำรวจ หรือ สื่อมวลชน ในกรณีหากถูกทนายของ แอมไซยาไนด์ ฟ้องกลับอีกด้วย

ส่วนที่ทนายพัช ไปพูดในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งบอกว่าที่ศาลยกคำร้องขอหมายจับเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ พลตำรวจเอกสุรเชรษฐ์ ยังคงยืนยันกลับว่ามีหลักฐานเพียงพอ แต่ที่ศาลให้กลับไปออกเป็นหมายเรียก เพราะเป็นข้อหาเดียวกันกับรองอ๊อฟ จึงจะให้ความเป็นธรรมแบบเดียวกันกับที่ออกหมายเรียกก่อนเช่นกัน

ทั้งนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์​ หัก​พาล​ รอง​ผู้​บัญชาการ​ตำรวจ​แห่งชาติ​ จะไปประชุม​ร่วมกับอธิบดี​กรม​โรงงานอุตสาหกรรม​ เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องระเบียบ​การจำหน่ายสารไซยาไนด์​ และจะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ whiteoakoutfittersinc.com